แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ธรรม วินิจฉัย แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ธรรม วินิจฉัย แสดงบทความทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

สมาธิเหมือนเก็บเปลือกหอย?: ถอดรหัสการปฏิบัติจากชายหาดแห่งจิตใจ จุดเหมือนและต่างกับสติปัฏฐาน-อานาปานสติ

"บทความนี้จะพาคุณสำรวจการเปรียบเทียบอันลึกซึ้งของการนั่งสมาธิกับการเดินเก็บเปลือกหอยริมชายหาด พร้อมวิเคราะห์จุดเหมือนและจุดต่างกับหลักสติปัฏฐานและอานาปานสติ เพื่อความเข้าใจที่แท้จริงของการปฏิบัติ."



คุณเคยลองเปรียบเทียบการนั่งสมาธิกับการเดินเล่นริมชายหาดเพื่อเก็บเปลือกหอยสวยๆ บ้างไหม? อาจฟังดูแปลก แต่การเปรียบเทียบนี้กลับซ่อนความจริงอันลึกซึ้งของการปฏิบัติธรรมไว้ได้อย่างน่าทึ่ง บทความนี้จะชวนคุณมาถอดรหัสการปฏิบัติสมาธิจาก “ชายหาดแห่งจิตใจ” พร้อมสำรวจจุดเหมือนและจุดต่างกับหลักปฏิบัติสำคัญอย่างสติปัฏฐานและอานาปานสติ

สมาธิกับการเก็บเปลือกหอย: ความเหมือน

การเดินเก็บเปลือกหอยกับการปฏิบัติสมาธิ มีหลายแง่มุมที่คล้ายคลึงกันในเรื่องของ การรับรู้ การจัดการ และความเพลิดเพลิน

  • การรู้ตัว (สติ): เหมือนเรามีสติจดจ่อกับการมองหาและเลือกเก็บเปลือกหอยตามชายหาด ในการทำสมาธิ เราก็มีสติอยู่กับสิ่งที่เรากำหนด เช่น ลมหายใจ หรือสภาวะต่างๆ ที่ปรากฏในกายและใจ
  • การเลือกเก็บ / การเพ่ง: เมื่อเราเห็นเปลือกหอยสวยๆ เราก็จดจ่อ เพ่งพิจารณา และเลือกเก็บมัน ในการปฏิบัติสติปัฏฐานและอานาปานสติ จิตเราก็จดจ่ออยู่กับอารมณ์กรรมฐานหลัก หรือสภาวะธรรมที่ปรากฏขึ้น
  • การปัดทิ้ง / การปล่อยวาง: เมื่อเราหยิบเปลือกหอยขึ้นมาแล้วพบว่ามีเศษดินเศษหินติดมา เราย่อมปัดทิ้งหรือโยนทิ้งไป ในทำนองเดียวกัน ระหว่างทำสมาธิ เมื่อมีความคิดฟุ้งซ่าน กิเลส หรือสิ่งรบกวนใดๆ เกิดขึ้น เราก็ใช้สติรู้เท่าทันแล้วปล่อยวาง ไม่ยึดติด หรือดึงจิตกลับมาสู่ฐานการปฏิบัติ ซึ่งคือการ 'ปัดทิ้ง' สิ่งที่ไม่ใช่
  • ความเพลิดเพลิน: การได้เปลือกหอยสวยๆ อยู่ในมือย่อมนำมาซึ่งความสุขเล็กๆ น้อยๆ เช่นเดียวกับความเพลิดเพลินที่ได้จากธรรมชาติรอบตัว ในการปฏิบัติสมาธิ เมื่อจิตตั้งมั่นและสงบลง เราย่อมสัมผัสได้ถึงความสงบเย็น ความเบาสบาย และความสุขที่ละเอียดอ่อน ซึ่งเป็นความเพลิดเพลินในสมาธิอันบริสุทธิ์

สมาธิกับการเก็บเปลือกหอย: ความต่าง

แม้จะมีความเหมือนที่ลึกซึ้ง แต่แก่นแท้และจุดมุ่งหมายของการเปรียบเทียบก็ยังมีความแตกต่างที่สำคัญ

  • เป้าหมายสูงสุด:
    • การเก็บเปลือกหอย: มีเป้าหมายเพื่อ 'ได้มา' ซึ่งเปลือกหอย ซึ่งเป็นวัตถุภายนอก และความพึงพอใจจากการรวบรวม
    • สติปัฏฐานและอานาปานสติ: มีเป้าหมายเพื่อ 'การละ' ซึ่งกิเลสทั้งหลาย เพื่อ 'เข้าใจ' ธรรมชาติของกายและจิตตามความเป็นจริง และนำไปสู่ปัญญาและวิมุตติ (ความหลุดพ้น) ซึ่งเป็นความสุขภายในที่ยั่งยืน ไม่ใช่การแสวงหาสิ่งภายนอก
  • ลักษณะของสิ่งที่ 'เลือกเก็บ':
    • การเก็บเปลือกหอย: สิ่งที่เลือกเก็บคือ 'วัตถุ' ภายนอกที่จับต้องได้ มีรูปร่าง สีสัน
    • สติปัฏฐานและอานาปานสติ: สิ่งที่ 'เลือกเก็บ' (คือการตั้งสติกำหนดรู้) คือ 'สภาวะธรรม' ที่เกิดขึ้นภายในกายและใจ เช่น ลมหายใจ อาการของจิต ความรู้สึกต่างๆ ซึ่งเป็นนามธรรมและมีจุดประสงค์เพื่อการเจริญปัญญา
  • ทิศทางของการ 'พุ่งเป้า' (แสวงหา vs. รู้ทัน):
    • การเก็บเปลือกหอย: เรา 'พุ่งเป้า' สายตาและจิตใจไปที่วัตถุภายนอก เป็นการ 'แสวงหา' สิ่งที่อยู่นอกตัวเรา
    • สติปัฏฐานและอานาปานสติ: เรา 'พุ่งเป้า' ที่ภายในกาย (ลมหายใจ) และภายในจิต เพื่อเฝ้ารู้และสังเกตสิ่งที่ปรากฏขึ้น ซึ่งไม่ใช่การแสวงหา แต่เป็นการ 'รู้เท่าทัน' ว่าเมื่อใดที่กิเลสหรือความคิดเข้ามากระทบ (เช่น การที่จิตคิดเรื่องอื่นโดยไม่รู้ลมหายใจเข้าออกสั้นหรือยาว นั่นคือการเผลอสติ) แล้วจึงจัดการกับมันด้วยสติและปัญญา

สรุป: สมาธิที่แท้จริงคือการฝึกฝนจิตในทุกขณะ

การเปรียบเทียบการนั่งสมาธิกับการเดินเก็บเปลือกหอยริมชายหาดของคุณนั้น ช่วยให้เห็นภาพของการปฏิบัติได้อย่างชัดเจนและลึกซึ้งยิ่งขึ้น มันตอกย้ำว่าการปฏิบัติสมาธิ ไม่ได้เป็นเพียงการแสวงหาความสงบชั่วคราว แต่เป็นการฝึกฝนจิตอย่างต่อเนื่อง ผ่านการรู้ตัว การจดจ่อ การปล่อยวาง และการเรียนรู้ที่จะอยู่กับปัจจุบันขณะอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นเส้นทางสู่ความเข้าใจในธรรมชาติของจิตใจและการหลุดพ้นจากความทุกข์อย่างยั่งยืน

ไขความจริง: สมาธิ 10 นาทีมีคุณภาพจริงหรือ? ทำไม "นั่งนาน" จึงสำคัญกว่าที่คุณคิด

"บทความนี้จะไขความจริงเกี่ยวกับคุณภาพของการนั่งสมาธิ ล้มล้างความเชื่อผิดๆ ว่า 10 นาทีก็พอ และเผยให้เห็นถึงคุณค่าของการ 'นั่งนาน' พร้อมวิธีเตรียมตัวและหลักการปฏิบัติที่แท้จริง."




1. กว่าจะได้สมาธิที่แข็งแรงในระยะเวลาอันรวดเร็ว ต้องผ่านอะไรบ้าง?

การจะเข้าถึง “10 นาทีที่มีคุณภาพ” ในการนั่งสมาธินั้น ไม่ได้เกิดขึ้นลอยๆ เหมือนผลลัพธ์ที่ปรากฏในชั่วพริบตา แต่มันคือปลายทางของกระบวนการฝึกฝน สั่งสม และเรียนรู้ที่ยาวนานและต่อเนื่องของจิต แม้แต่ผู้ปฏิบัติที่ดูเหมือนจะเข้าถึงสมาธิได้รวดเร็ว ก็ล้วนผ่านการบ่มเพาะมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว

  • การสั่งสมประสบการณ์: เหมือนนักกีฬาที่ต้องซ้อมหนักหลายพันชั่วโมงก่อนจะแสดงศักยภาพในไม่กี่นาที การได้สมาธิที่มั่นคงก็เช่นกัน ต้องผ่านการฝึกจิตให้คุ้นเคยกับการตั้งมั่น ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
  • การเรียนรู้จากความผิดพลาด: ทุกครั้งที่จิตฟุ้งซ่านแล้วรู้ตัวและดึงกลับมาได้ คือการเรียนรู้ที่สำคัญ ซึ่งจะนำไปสู่ความเข้าใจในธรรมชาติของจิตที่ลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆ
  • วินัยและความอดทน: การปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ แม้ในวันที่รู้สึกว่าไม่ได้ผล คือรากฐานที่สำคัญที่สุดในการสร้างกำลังใจและกำลังสมาธิ

2. ก่อนนั่งสมาธิ ควรมีการเตรียมตัวอย่างไร?

การเตรียมตัวที่ดีจะช่วยให้การปฏิบัติสมาธิมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ใช่แค่การจัดสถานที่ให้เงียบสงบ แต่รวมถึงการเตรียมพร้อมทางจิตใจด้วย

  • มีฉันทะ (ความพอใจใฝ่ดี): ความปรารถนาที่จะปฏิบัติอย่างแท้จริง เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่จะทำให้เราก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆ ได้
  • ลดความกังวลและสิ่งรบกวน: พยายามจัดการภารกิจที่ค้างคา หรือเรื่องที่ทำให้จิตใจไม่สงบ เพื่อให้เมื่อนั่งแล้ว จิตจะได้จดจ่อกับการปฏิบัติได้มากขึ้น
  • เลือกเวลาและสถานที่ที่เหมาะสม: แม้จะทำได้ทุกที่ แต่การเลือกช่วงเวลาที่เราผ่อนคลายและสถานที่ที่เงียบสงบ จะช่วยเอื้อต่อการทำสมาธิ
  • กำหนดเป้าหมายที่ยืดหยุ่น: ไม่ควรคาดหวังว่าต้องสงบภายใน 10 นาที แต่ให้ตั้งใจที่จะอยู่กับอารมณ์กรรมฐาน และรู้เท่าทันจิตที่ผุดขึ้นมา

3. ในระหว่างการนั่งสมาธิ เปรียบเหมือนการเลือกเก็บเปลือกหอยสวยๆ บนชายหาด

นี่คือหัวใจสำคัญของการทำความเข้าใจการนั่งสมาธิที่แท้จริง และเป็นจุดที่มักถูกเข้าใจผิด

  • "เปลือกหอยสวยๆ" คือความสงบและสติ: ในระหว่างการนั่งสมาธิ เราจะพบช่วงเวลาที่จิตสงบ ตั้งมั่น หรือรับรู้ลมหายใจได้อย่างชัดเจนและต่อเนื่อง นี่คือ “เปลือกหอยสวยๆ” ที่เราควรจะ “เก็บ” คือรับรู้และอยู่กับสภาวะนั้นๆ
  • "ดินหินที่ติดมาด้วยก็โยนทิ้งปัดทิ้ง" คือการจัดการกับความคิดฟุ้งซ่าน:
    • ในระหว่างการปฏิบัติ จิตย่อมมีการปรุงแต่ง มีความคิดฟุ้งซ่าน (เช่น คิดเรื่องงาน คิดเรื่องคนรัก ความกังวล) สิ่งเหล่านี้คือ “ดินหิน” ที่ติดมากับเปลือกหอย
    • แต่จุดประสงค์ไม่ได้ให้นั่งทนหรือปล่อยให้ฟุ้งซ่านไปอย่างไร้ทิศทาง หากแต่คือการ **“รู้เท่าทัน”** ว่าความคิดนั้นเกิดขึ้นแล้ว ไม่เข้าไปยึดติด ไม่ต่อยอด ไม่ปรุงแต่งไปกับมัน
    • เมื่อรู้แล้วก็ให้ **“โยนทิ้งปัดทิ้ง”** คือปล่อยวาง ไม่ตามไป แล้วดึงจิตกลับมาอยู่กับอารมณ์กรรมฐานหลัก เช่น ลมหายใจ
  • คุณค่าของการ “โยนทิ้งปัดทิ้ง”: การทำเช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า คือการสั่งสม **“ขณิกสมาธิ” (สมาธิชั่วขณะ)** การได้ขณิกสมาธิบ่อยๆ นี่เองที่เป็นการสร้างกำลังให้จิต ทำให้เราสามารถอยู่กับอารมณ์กรรมฐานได้นานขึ้น และนำไปสู่สมาธิที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นในที่สุด

4. สรุป: การปฏิบัติสมาธิที่ยาวนาน นอกจากจะได้ความเพลิดเพลินแล้ว ยังทำให้ได้ขณิกสมาธิบ่อยๆ

ดังนั้น การนั่งสมาธิที่ยาวนาน แม้จะมีช่วงที่จิตฟุ้งซ่านปะปนอยู่บ้าง ก็ไม่ได้ไร้ประโยชน์อย่างที่เข้าใจผิดกัน แต่มันคือ “สนามฝึก” ที่แท้จริง ที่ทำให้เราได้เรียนรู้และพัฒนาจิตอย่างลึกซึ้ง

  • ความเพลิดเพลินในสมาธิ: เมื่อจิตเริ่มตั้งมั่นและสงบขึ้น ผู้ปฏิบัติย่อมสัมผัสได้ถึงความสงบเย็น ความสุข และความเบาสบายใจ ซึ่งเป็นผลพวงจากการปล่อยวาง
  • ได้ขณิกสมาธิบ่อยๆ: ทุกครั้งที่จิตฟุ้งซ่านแล้วเราใช้สติรู้ทันและดึงกลับมาได้ นั่นคือการเกิดขณิกสมาธิ การทำเช่นนี้ซ้ำๆ เป็นการสั่งสมกำลังสติ ทำให้จิตแข็งแรงและตั้งมั่นได้ดีขึ้นเรื่อยๆ
  • การพัฒนาปัญญา: การเฝ้าสังเกตอารมณ์ที่ผุดขึ้นและดับไป สอนให้เราเห็นถึงความไม่เที่ยง ความทุกข์ และความไม่ใช่ตัวตน ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาปัญญาได้ในที่สุด

การมองข้ามคุณค่าของการ “นั่งนาน” และการจัดการกับความฟุ้งซ่าน คือการพลาดโอกาสในการพัฒนาจิตที่สำคัญที่สุดไป เพราะท้ายที่สุดแล้ว สมาธิที่มั่นคงและมีคุณภาพ ไม่ได้เกิดจากความบังเอิญหรือการเร่งรัดในเวลาอันสั้น แต่มาจากการเพียรพยายาม สังเกต และฝึกฝนอย่างต่อเนื่องในทุกขณะจิตครับ

วันจันทร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2568

จิตวิญญาณคืออะไร? กำเนิดของจิตที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน

 จิตวิญญาณคืออะไร? กำเนิดของจิตที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน

จิตเกิดขึ้นได้อย่างไร? ค้นหาคำตอบจากวิทยาศาสตร์ AI พระพุทธศาสนา และปรัชญา มีชีวิตหลังความตายจริงหรือ? มองหาคำตอบจากหลากหลายวัฒนธรรม จิตวิญญาณเชื่อมโยงกับจักรวาลอย่างไร? เผยความลับที่น่าทึ่ง เดินทางสำรวจจิตวิญญาณไปกับเรา

จิตวิญญาณ: มุมมองทางวิทยาศาสตร์ พุทธศาสนา และปรัชญา
จิตวิญญาณและการกลับชาติมาเกิด: ความเชื่อที่ยังคงเป็นปริศนา
จิตวิญญาณกับชีวิตประจำวัน: การเชื่อมโยงที่คุณอาจไม่เคยสังเกตเห็น
ปลดล็อกความลับของจิตวิญญาณ
ค้นพบความหมายของชีวิต
เดินทางสู่โลกแห่งจิตวิญญาณ
เรื่องราวที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับจิตวิญญาณ
คุณเคยสงสัยไหมว่าจิตวิญญาณของเรามาจากไหน? หรือว่าชีวิตหลังความตายมีอยู่จริงหรือไม่?

คลิปนี้จะพาคุณไปสำรวจโลกของจิตวิญญาณ ค้นหาคำตอบว่าจิตวิญญาณเกิดขึ้นได้อย่างไร มีอยู่จริงหรือไม่ ผ่านมุมมองทางวิทยาศาสตร์ พุทธศาสนา และปรัชญา
หลังจากชมคลิปนี้ คุณจะเข้าใจแนวคิดเกี่ยวกับจิตวิญญาณได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้



วันพุธที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2566

อาราธนาธรรมที่ถูกต้อง บาลี พร้อม คำแปล

 อาราธนาธรรม คือ

คาถาขออาราธนาธรรม หลวงปู่ วัดท่ามะโอ นี้ใช้ก่อน อัญเชิญ ภิกษุ เทศนาธรรม

อาราธนาธรรมที่ถูกต้อง นี้ ประพันธ์ พระบาลี โดย หลวงปู่ หลวงปู่ธัมมานันทะ มหาเถระ แห่งวัดท่ามะโอ
มีการปรับปรุง จากบทที่ใช้อยู่ ในปัจจุบัน เพราะ ไม่ใช่ยุคพระพุทธเจ้า เป็นบุคคลธรรมดา อัญเชิญ ภิกษุ เพื่อแสดงธรรมของพระพุทธเจ้า จึงได้ พระบาลี คาถานี้ออกมา

อาราธนาธรรม คําอ่าน

กาโล ภนฺเต มุนินฺทสฺส โสตุมิจฺฉาม เทสนํ
อนุกมฺปมุปาทาย              เทเสตุ ธมฺมเทสนํ

อาราธนาธรรม คำแปล

ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ถึงเวลาฟังธรรมแล้ว
ข้าพเจ้าทั้งหลาย ปรารถนาเพื่อฟังพระธรรม
ขอท่าน อาศัยความอนุเคราะห์
โปรดแสดงธรรม แก่ปวงข้าพเจ้าด้วยเทอญ





วันอังคารที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2564

ภาษาบาลี พร้อมความหมาย ทำไมต้องเรียนบาลี กับ วิปัสนาชุนี แค่คำนำก็สนุกแล้ว

วิปัสสนากรรมฐานเบื้องต้น ในวิปัสนาชุนี ภาษาบาลี พร้อมคําแปล

นี่แค่เริ่มต้น กับ หลายคำถาม ที่วิปัสสนาชุนี มีคำตอบ เพื่อคลายข้อสงสัยว่าทำไมจึงต้องศึกษาภาษาบาลี
เพื่อคลายปมในใจ เพื่อให้ใจหนักแน่นไม่คลอนแคลน ก่อนศึกษาพระธรรม และ น้อมนำไปปฏิบัติ
โปรดลด เสียง เมื่อใช้ หูฟัง หรือ เครื่องขยายเสียง (อัดเสียงด้วยไมค์ คุณภาพสูง) 



วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

นอนไม่หลับทำไงดี สารพัดวิธีแก้อาการนอนไม่หลับ โดยใช้ ธรรมมะ และ Monitor คุณภาพการนอนโดยใช้ Smartwatch

เอาชนะ อาการนอนไม่หลับ

โดยใช้ ธรรมมะ และ Monitor คุณภาพการนอนโดยใช้ Smartwatch

นอนไม่หลับทำไงดี ง่วงแต่นอนไม่หลับ เครียดนอนไม่หลับ วิธีทำให้นอนหลับ



วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

การหลับลึก แบบมีคุณภาพ เป็นอย่างไร หรือ อาจกล่าวได้ว่า Best Sleep Qualities เป็นอย่างไร

Best Sleep Qualities เป็นอย่างไร

ครั้งก่อน พูดถึงเรื่อง Smart Watch ที่ปกติ ข้าเจ้าเป็นคนนอนน้อย เลยเจอ การนอนแค่ 2 ระดับ Good and Poor 😆😆😆
เมื่อวานกลับจาก การเดินทางไกล ข้ามจังหวัด เลยหลับค่อนข้างยาวหน่อย เลย ได้ คุณภาพ การนอน เป็น Best Qualities
Best Sleep Qualities มีเงื่อนไข อยู่ว่า นอนรวมกันแล้ว เกิน 8 ชม. ขึ้นไป หลับลึก มากกว่า 40% ของ การนอนปกติ หรือ Light Sleep 😘😘
ต่อจากครั้งที่แล้ว พระพุทธองค์ ได้มีพระดำรัสถึง ผู้เจริญเมตตา จะทำให้หลับสนิท ไม่ฝันร้าย
ครั้งนี้ พบพระสูตร เพิ่มเติมอีกว่า ถ้าหลับเพลิน แต่ขาดสติ ก็มีผลเสียได้เช่น กัน ดังนั้น เราควรหมั่นเจริญสติก่อน นอนหลับควบคุ่กันไปด้วย ดังพุทธพจน์ ที่ว่า😇😇😇
...นอนหลับคุมสติ มีคุณ ๕ ประการ
      ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุที่นอนหลับ มีสติตั้งมั่น รู้สึกตัวอยู่ มีคุณ ๕ ประการนี้ คือ
หลับเป็นสุข ๑ ตื่นเป็นสุข ๑ ไม่เห็นความฝันอันลามก ๑ เทพดารักษา ๑ อสุจิไม่เคลื่อน ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุที่นอนหลับ มีสติตั้งมั่น รู้สึกตัว มีคุณ ๕ ประการ นี้แล....😇😇😇
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง (ไทย-บาลีสยามรัฐ) เล่มที่ 05
พระวินัยปิฎก เล่ม ๕ มหาวรรค ภาค ๒ มี ๖ ขันธกะ
ว่าด้วยเรื่องเครื่องหนังเภสัช กฐิน จีวร นิคหกรรม และการทะเลาะวิวาทและสามัคคี
ข้อที่ 156





วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2564

ชีวิตคือการเตรียมพร้อม คำสอน เกี่ยวกับครอบครัว การอยู่ร่วมกัน ทำให้รวย

ชีวิตคือการเตรียมพร้อม 🥰🥰🥰

หลากหลายคำถาม 😁😁 พี่ทำอุปกรณ์ Hitech น่าจะรวย 😁😁😁
เคยมีแวปหนึ่ง คิดว่า เราเกิดผิดประเทศ ?
ภาษาบาลี มีคำหนึ่ง ใน มงคล 38 ประการ ปฏิรูปเทสวาโส แปลว่า อยู่ในประเทศ ที่เหมาะสม ประเทศที่ดี แล้วประเทศไหนล่ะ 😄😄😄
ประเทศที่ดี เป็นอย่างไร ในอดีตทางตะวันตก นักวิทยาศาสตร์ เคยโดนกวาดล้าง โดยสำนักวาติกัน กว่าจะมาเป็นเทคโนโลยีในวันนี้ บ้างก็ว่า เป็นประเทศที่มีพระพุทธศาสนา 😁😁😁
แล้วถ้าบอกว่า อดีตชาติ มีจริง ถ้าเราเคยอยู่ในยุคที่ นักวิทยาศาสตร์ โดนกวาดล้าง แล้ว อธิษฐานว่าขอเกิดในประเทศ ที่มีพระพุทธศาสนาเล่า 😁😁😁 ยากเกินคาดเดา ใช่ไหม ที่แน่ๆ เมืองไทย ปลูกอะไรกินก็ขึ้น 😃😃😃
ในพระพุทธศาสนา ได้มีคำสอนมากมาย เกี่ยวกับครอบครัว การอยู่ร่วมกัน และ ระมัดระวัง ไม่ให้เกิดความเสื่อมแก่ทรัพย์ องค์ประกอบที่ทำให้รวย โดยชอบ
เช่่น
...ดูกรพยัคฆปัชชะ ก็อุฏฐานสัมปทาเป็นไฉน กุลบุตรในโลกนี้ เลี้ยงชีพด้วยการหมั่น
ประกอบการงาน คือ กสิกรรม พาณิชยกรรม โครักขกรรม รับราชการฝ่ายทหาร รับราชการ
ฝ่ายพลเรือน หรือศิลปอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นผู้ขยันไม่เกียจคร้านในการงานนั้น ประกอบด้วย
ปัญญาเครื่องสอดส่องอันเป็นอุบายในการงานนั้น สามารถจัดทำได้...
...โภคทรัพย์ที่เกิดโดยชอบอย่างนี้แล้ว ย่อมมีทางเสื่อม ๔ ประการ
คือ เป็นนักเลงหญิง ๑ เป็นนักเลงสุรา ๑ เป็นนักเลงการพนัน ๑มีมิตรชั่ว สหายชั่ว เพื่อนชั่ว ๑
ดูกรพยัคฆปัชชะ เปรียบเหมือนสระน้ำใหญ่มีทางไหลเข้า ๔ ทาง ทางไหลออก ๔ ทาง..
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง (ไทย-บาลีสยามรัฐ) เล่มที่ 23
พระสุตตันปิฎก อังคุตตรนิกาย เล่ม ๒๓ สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต ข้อที่ 144

ลักษณะของ กลฺยาณมิตฺต ๗ ประการ (กัลยาณมิตร)
๑ ปิโย เป็นที่รัก
๒ ครุ เป็นครู ที่เคารพ
๓ ภาวนีโย ถูกทำให้เจริญ
๔ วตฺตา พูดเป็น อธิบายชี้แจงข้อสงสัยได้ ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย
๕ วจน ขโม เป็นผู้อดทนต่อถ้อยคำ (สามารถซักถามได้)
๖ พูดจาแถลงคำพูดที่ลึกซึ้งได้
๗ ไม่ชักจูงไปในทางที่เสียหายไม่เป็นประโยชน์

ประกอบการมีคู่ครอง

ภรรยาผู้เป็นทิศเบื้องหลัง สามีบำรุงโดยหน้าที่ ๕ ประการนี้แล ย่อมอนุเคราะห์ สามีด้วยหน้าที่ ๕ ประการ คือ
๑. จัดการงานดี
๒. สงเคราะห์คนข้างเคียงดี
๓. ไม่ประพฤตินอกใจ
๔. รักษาทรัพย์ที่สามีหามาได้
๕. ขยันไม่เกียจคร้านในกิจทั้งปวง
(สํ.ส.๑๕/๑๖๕)

ดังนั้น คำตอบเมื่อมีคนถามว่า ทำไม ทำ Hi-technology จึงยังไม่รวย ธรรมมะ อันเป็น อกาลิโก จากพระไตรปิฎก ตอบคำถามนี้ได้อย่างชัดแจ้ง ไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูก ถึงแม้จะเขียนยาว แต่ถ้าสิ่งเหล่านี้เข้าไปอยู่ในใจแล้ว มันสั้นนิดเดียว ขอ สรรพมงคลธรรม จงมีแด่ทุกท่านเจริญพร



วันจันทร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2564

Smart Watch เทคโนโลยี เครื่องมือแพทย์ และ การหลับลึก

Smart Watch เทคโนโลยี เครื่องมือแพทย์ และ การหลับลึก

เทคโนโลยี เครื่องมือแพทย์ในอดีต เครื่องใหญ่โต ไหง เป็น Smart Watch ตัวนิดเดียวไปได้
น่าจะเป็นโรงแรมนี้ ราวปี พศ.2538 😁😁
มีโอกาส ได้ไป เมือง บอสตัน USA คนเดียว พักที่โรงแรมนี้
วันนั้น ในอดีต ช่วงๆนี้แหละ ประเทศไทยยัง ไม่มี ถนนลอยฟ้า และ มุดดิน เหมือนในปัจจุบัน และ ทำให้เราสงสัยว่า ทำไมประเทศไทยถึงไม่ทำ ดูศิวิลัย เสียจริง สำหรับเราในยุคนั้น แพค มาม่า ต้มยำ กับ รสเป็ดพะโล้ ไป 2 แพค อร่อยมาก เพราะ ที่นั่นมีแต่อาหารจืดๆ มื้อเย็น บริษัทแม่ไม่ได้เลี้ยงข้าว กิน Steak ทุกเย็นกับข้าวผัด เฉลี่ย 13 เหรียญ ทุกวัน มะม่วงมัน ลูกละ ราว 40 (1USD = 25 บาท ตอนนั้น) บ้านเรา กิโลกรัมละ 25 บาท
เครื่องมือแพทย์ เป็นเครื่อง Electrolyte และ Blood Gas ซึ่งวัด Oxygen ในเลือดด้วย ปัจจุบัน เป็น Function นึงอยู่ใน Smart Watch 🤓🤨😄
หลักการ ของเครื่อง คือ เอาน้ำยาเข้าไปผสมกับ Blood และ Serum (เขียนภาษาอังกฤษ กันผู้จินตนาการสูงอาเจียน 😄😄) ทำให้เกิดการแตกตัวของสาร เป็นประจุไฟฟ้า ผ่านหัว Electrode ที่ความเร็วคงที่ สูตรคำนวณ คือ dQ/dt เป็น กระแสไฟฟ้าอ่อนๆ ผ่าน Current Amplifier นำมาผ่านตัวต้านทาน วัดเป็นค่าแรงดัน convert ออกมาเป็นความเข้มข้นของ สารนั้นๆ เป็น mMol/mL (มิลลิโมลต่อมิลลิลิตร ถ้าจำผิดขออภัย) 😄😄
ปัจจุบัน กลายเป็น Function หนึ่งใน Smart Watch โอ้ แม่เจ้า ตัวนิดเดียว และ ที่ชอบมาก คือ การประเมินว่า แต่ละวัน ของแต่ละคน ควรเดินเท่าไร และ การหลับลึก หลังจากใช้ทำให้รู้ว่า การดำเนินชีวิตเราปกติ การเดิน วิ่งของเราในกิจวัตรประจำวัน เพียงพอที่จะทำให้ร่างกาย เข็งแรงอยู่ได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายหนัก แต่การหลับลึก ถือว่า เป็นบุญ ของแต่ละคนจริงๆ ไม่เท่ากัน ในขณะที่ ร่างกายต้องการ หลับลึก เพียง 1.30 ชม. ขึ้นไป ซึ่งไม่มาก สำหรับคนที่ไม่ได้ทำงานหนักมากๆ ควรมีการทำสมาธิ เป็นประจำ เพื่อ เพิ่ม เวลาในการหลับลึก เพราะ การพักผ่อนนอนหลับ เป็นผลพวงจากกาย และ จิต ที่เราได้ใช้งานตลอดทั้งวัน ดังพุทธพจน์ ที่กล่าว..
"..เมื่อเมตตาเจโตวิมุติอันบุคคลเสพมาแต่แรก ให้เจริญแล้ว
ทำให้มากแล้ว ทำให้เป็นดุจยานที่เทียมดีแล้ว ทำให้เป็นที่ตั้ง ประพฤติสั่งสมเนืองๆ ปรารภ
สม่ำเสมอดีแล้ว พึงหวังอานิสงส์ ๑๑ อย่าง คือ หลับเป็นสุข ๑ ตื่นเป็นสุข ๑ ไม่ฝันร้าย ๑
เป็นที่รักของพวกมนุษย์ ๑  เป็นที่รักของพวกอมนุษย์ ๑ เทพยดารักษา ๑ ไฟก็ดี ยาพิษก็ดี
ศาตราก็ดี ไม่ต้องบุคคลนั้น ๑ จิตตั้งมั่นได้รวดเร็ว ๑ สีหน้าผุดผ่อง ๑ ไม่หลงทำกาละ ๑
เมื่อยังไม่บรรลุคุณวิเศษที่ยิ่งขึ้นไปย่อมเกิดในพรหมโลก ๑ เมื่อเมตตาเจโตวิมุติอันบุคคลเสพมา
แต่แรก ให้เจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ทำให้เป็นดุจยานที่เทียมดีแล้ว ทำให้เป็นที่ตั้ง ประพฤติ
สั่งสมเนืองๆ ปรารภสม่ำเสมอดีแล้ว พึงหวังอานิสงส์ ๑๑ นี้แล."

พระไตรปิฎก ฉบับหลวง (ไทย-บาลีสยามรัฐ) เล่มที่ 08
พระวินัยปิฎก เล่ม ๘ ปริวาร ข้อที่ 1004



วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

กัลยาณมิตร แปลว่า มีกี่ประเภท อะไรบ้าง กลฺยาณกมฺมํ แปลว่า

กัลยาณมิตร แปลว่า มีกี่ประเภท อะไรบ้าง

ภาษาบาลี คำว่า กลฺยาณกมฺมํ แปลว่า

กัลยาณกรรม ซึ่งการผูกมิตร
กลฺยาณ+กมฺมํ
ลักษณะของ กลฺยาณมิตฺต ๗ ประการ (กัลยาณมิตร)
๑ ปิโย เป็นที่รัก
๒ ครุ เป็นครู ที่เคารพ
๓ ภาวนีโย ถูกทำให้เจริญ
๔ วตฺตา พูดเป็น อธิบายชี้แจงข้อสงสัยได้ ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย
๕ วจน ขโม เป็นผู้อดทนต่อถ้อยคำ (สามารถซักถามได้)
๖ พูดจาแถลงคำพูดที่ลึกซึ้งได้
๗ ไม่ชักจูงไปในทางที่เสียหายไม่เป็นประโยชน์


สุขี แปลว่า ตามหลักบาลีไวยากรณ์ จาก บาลีดิค ThaiNewGenDict

สุขี แปลว่า




คำว่า สุขี ดูเป็นการคุ้นชินมากสำหรับ ภาษาไทย เพราะ ภาษาไทย ได้นำ คำนี้มาจาก ภาษาบาลี ซึ่งในภาษา บาลี ก็แปล ว่าความสุข แต่กรณีที่นำมาใช้แปลบาลี หรือ แต่ประโยค พระบาลีนั้น จะต้อง ถูกต้องตามบาลีไวยากรณ์ ดังจะได้กล่าวถึง ความหมายดังต่อไปนี้

สุขี 
จัดอยู่ในกลุ่มการทำตัวรูปแบบ นาม ปุง. กลุ่ม ทณฺฑี ศัพท์เดิม สุขี ผู้มีความสุข
ปฐมา เอก. อันว่าผู้มีความสุข ประธาน (ทำหน้าที่เป็นประธานในประโยคได้)
สุทธกัตตา สยกตฺตา อภิหิตกตฺตา ปกติกตฺตา สปฺปธาน (ชื่อสัมพันธ์)
ปฐมา พหุ. อันว่าผู้มีความสุข ทั้งหลาย ประธาน
สุทธกัตตา สยกตฺตา อภิหิตกตฺตา ปกติกตฺตา สปฺปธาน

อาลปนะ พหุ. แน่ะ, ดูก่อน, ข้าแต่, โอ ผู้มีความสุข ทั้งหลาย คำการร้องเรียก (หน้าทีเป็นคำร้องเรียกก็ได้)
อาลปนะ

ทุติยา พหุ. ซึ่ง, สู่, ยัง, สิ้น, ตลอด, กะ, เฉพาะ ผู้มีความสุข ทั้งหลาย กรรมในประโยค (เป็นกรรม ในประโยค ก็ได้)
อวุตตกัมมะ สัมปาปุณียกัมมะ การิตกัมมะ อัจจันตสังโยคะ อัจจันตสังโยคะ อกถิตกมฺม


วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

สพฺพํ รสํ ธมฺมรโส ชินาติ อรรถคาถา เป็นการอธิบายความหมายของ พุทธพจน์ ไม่ใช่คำแต่งใหม่ ทำให้ผู้อ่านเข้าใจมากยิ่งขึ้น

บทวิเคราะห์ สพฺพํ รสํ ธมฺมรโส ชินาติ

อันว่ารสพระธรรม ย่อมชนะ ซึ่งรสทั้งหลาย

บทวิเคราะห์ ๑ ถ้าไม่มี อรรถคาถา และ ผู้ขยายความ อรรถคาถา ถึงแม้อ่านบทแปล ก็ยังยากจะเข้าใจ เช่น

สพฺพํ รสํ ธมฺมรโส ชินาติ

แปลแบบตรงตัว เลยคือ อันว่ารสพระธรรม ย่อมชนะ ซึ่งรส ทั้งหลาย

คำถาม
๑ ธมฺมรโส
กรณี เรากล่าว รสพระธรรม "ธมฺมรโส" ตามหลักบาลี ไวยยากรณ์ เป็นคำเอกพจน์ ในขณะที่ (คณะผู้จัดทำ 84000.org ในตัวอย่างนี้) ผู้รู้ สมัยโบราณ ก็ครูบาอาจารย์ สมัยปัจจุบัน โรงเรียนปริยัติธรรม ต่างๆ เป็นต้น จะอธิบาย ได้ ว่า ไม่ใช่ ธรรมหมวดเดียว และ ธรรม ในที่นี้ ประกอบด้วย ธรรมหลายหมวด เช่น โพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการ และกล่าวคือโลกุตรธรรม ๙ ประการ เป็นต้น ดังรูป


นอกจากนี้ การอธิบาย ของกลุ่มผู้รู้ จะทำให้เราทราบว่า มีธรรมอะไรบ้าง ดังนั้น อรรถคาถา นั้น ไม่ใช่คำแต่งใหม่ ที่มี กลุ่มคนบางกลุ่ม กล่าวอ้างโจมตี

บทวิเคราะห์ ๒ ชินาติ แปลว่าชนะ ใคร? ชนะ ใคร?

กรณีที่เรา ไม่ทราบ พระบาลีบ้าง (เน้นคำว่าบ้าง แบบถูกต้องถึงแม้จะน้อยนิด) กรณีเรา(ไม่ทราบ) ก็จะไม่เข้าใจความหมายประโยคที่ว่า

โย นิรุตฺตึ น สิกฺเขยฺย สิกฺขนฺโต ปิฏกตฺตยํ
ปเท ปเท วิกงฺเขยฺย วเน อนฺธคโช ยถา ฯ
นิรุตติ บ่ ขีดเขียน แต่ไปเพียรเรียนพระไตร
ทุกบท ย่อมสงสัย ดังช้างไพรไร้ดวงตา

ชินาติ ในประโยคนี้ กลุ่มผู้รู้ ใช้ว่า ประเสริฐกว่า ถ้าเทียบในภาษาไทย ถือว่าใช้ ศัพท์ ที่สูงกว่า ชนะ ซึ่งก็หมายความว่า ชนะได้เหมือนกัน ดังนั้น บางสำนัก กล่าวอ้าง เป็นสำนักเดียวที่เผยแผ่ พุทธพจน์ สำนักอื่นบิดเบือนกันหมด  ทั้งๆที่ สำนักตนอ้างอิงแต่ภาษาไทยนั้น ดังนั้น การที่ใช้คำแทน ในภาษาไทย ดังเช่น ในประโยคนี้ จะเห็นได้ว่า
"ผู้เรียนพระบาลี ไม่ใช่เป็นผู้บิดเบือน พุทธพจน์ หรือ แต่งเติมพุทธพจน์ แม้แต่น้อย" 
* (ในภาษาบาลี เรียก "ประโยค" ว่า "วาจก") 

ชี้แจง

รูปด้านล่างนี้ คือ เนื้อความ เทียบเคียง ของโปรแกรมพระไตร ปิฎก ThaiTipitaka กรณีที่เราอ่านพระไตรปิฎก แปล เพียงอย่างเดียว เล่มเดียว เพียงแค่บทแปล เพียงบทเดียว ก็ยังยาก เพราะ การเทียบเคียง พระไตรปิฎก ภาษาบาลี และ ภาษาไทยนั้น เป็นการเทียบเคียง ข้อ ในพระไตรปิฎก ดังนั้น กว่าจะหาความหมายคำ หรือ ความหมายของประโยค สั้นๆ เพียงประโยคเดียว ยากยิ่ง ถ้าไม่ได้เรียนพระบาลี บ้าง (เน้นคำว่า บ้าง)



จากจุดนี้ จึงเป็นที่มา ในยุคปัจจุบัน จึงมี โรงเรียน ปริยัตติธรรม เกิดขึ้น มากมาย ทั้งเป็นที่นิยม และ ไม่เป็นที่นิยม โดยที่ทุกสำนักที่มีความรู้ถึงขั้นถูกต้องในธรรมแล้ว ล้วนแต่มีความเห็นเป็นหนึ่งเดียว ในภาพรวมเพราะเข้าใจในบทบาลี ที่ถ่องแท้ จากตำราโบราณ

ขอธรรมมะ สวัสดี จงมีแด่ทุกท่านที่มี ธรรมมะ เพื่อการ ปล่อยวาง

วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2563

รักซ้อน ซ่อนเงื่อน มีเมียน้อย กิ๊ก ผิดหรือไม่

รักซ้อน ซ่อนเงื่อน มีเมียน้อย กิ๊ก ผิดหรือไม่

ในสังคมเมืองปัจจุบัน มีทั้งหญิง และ ชาย ที่มี คู่ คบหามากกว่า ๑ ไม่ว่าจะต่างเพศ หรือ เพศเดียวกัน
ขอแยกประเด็นดังนี้

ถ้าเรามองที่อัตตาตัวตน ศีล ๕ และ ตัวบทกฎหมาย และ ศีลธรรม คือ ผิดชัดเจน แต่ทั้งนี้ มนุษย์ ประกอบด้วยสัญชาติญาณสัตว์ที่มีต่อสิ่งเร้า โดย พระพุทธเจ้า ได้ให้ข้อธรรมในเรื่อง ความพอใจในกามคุณ ๕ ไว้ เพื่อให้เราได้ปฏิบัติตาม และ ระมัดระวังตนไม่ให้เกิดความประมาทในอารมณ์นั้นๆ (ซึ่ง ตรงนี้เป็นเหตุ ที่มนุษย์ปุถชนม์ อย่างข้าพเจ้า และ หลายๆท่านจะต้องฝึกฝนเรียนรู้เท่าทันเพื่อไม่ให้เกิด รักซ้อน อย่างที่เห็นเป็นข่าว) จากข้อนี้ พอจะสรุปได้ว่า ไม่ว่าจะเป็น รัก ครั้งที่ ๑ ถึง ๑๐๐ ก็มักจะเกิดขึ้นจาก ความพอใจในกามคุณ ๕ แทบทั้งสิ้น ซึ่งเป็นของชั่วคราว จึงเป็นเหตุให้พระพุทธองค์ มี ธรรม ในหมวดที่จะทำให้ มนุษย์อยู่ร่วมกันอย่างผาสุข และ เป็นเกราะป้องกันเพื่อที่จะไม่ให้ไปหา คู่ หรือ สังคมใหม่ ดังที่จะขอกล่าวโดยสรุปในข้อ ๒


๒ หมวดธรรมแห่งการ อยู่ร่วมกัน

สาราณียธรรม ๖ ประการ

พรมหมวิหาร ๔ 

มงคลสูตร ๓๘ ประการ

ทางตรงข้ามของความเสื่อมแห่ง โภคทรัพย์ ๔ ประการ

ที่ควรปฏิบัติ ซึ่งประกอบไปด้วย

๑ ไม่เล่นการพนัน
๒ ไม่ติดสุรา
๓ ไม่ติดนารี (ในยุคปัจจุบัน ก็จะ เป็น เพศที่ตนชอบ)
๔ เป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกัน ครับ
โดย พระพุทธองค์ ได้ให้แนวทาง ของ 

กัลยานมิตร ๗ ประการ ไว้ดังนี้

๑ ปิโย เป็นที่รัก
๒ ครุ เป็นครู ที่เคารพ
๓ ภาวนีโย ถูกทำให้เจริญ
๔ วตฺตา พูดเป็น อธิบายชี้แจงข้อสงสัยได้ ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย
๕ วจน ขโม เป็นผู้อดทนต่อถ้อยคำ (สามารถซักถามได้)
๖ พูดจาแถลงคำพูดที่ลึกซึ้งได้
๗ ไม่ชักจูงไปในทางที่เสียหายไม่เป็นประโยชน์

โดย สรุป ธรรมในหมวด ที่ ๒ นั้น เป็นธรรมแบบ กลางๆ ที่พะพุทธองค์ให้นี้ เป็นธรรมที่พระพุทธองค์ให้ เพื่อเป็นการไม่ให้โทษเขา โทษเรา พิจารณา ทั้งเขา และ เรา เพื่อป้องกัน ไม่ให้คู่ ผู้ร่วมงาน ของตนหาคู่ หรือ สังคมใหม่ครับ กราบนมัสการ


วันอาทิตย์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2563

บุญบาป จะติดตัวเราไปยังปรโลก​ โลกเบื้องหน้า​

บุญบาป จะติดตัวเราไปยังปรโลก​ โลกเบื้องหน้า​

โดย ท่านเจ้าคุณพระปริยัติธรรมธาดา (ทองคำ เถรานนฺโท)

บุญคือความดี​ บาปคือความชั่​ว​  เพียง​ 2  ประการนี้เท่านั้น​ จะติดตัวเราไปยังปรโลก​ โลกเบื้องหน้า​  ซึ่งมีพระบาลีพุทธพจน์ตรัสรับรองไว้ในพระสุตตันตปิฎก​ สคาถวรรค​ สังยุตตนิกายว่า
   อุโภ  ปุญฺญฺญฺจ​  ปาปญฺจ​   ยํ  มจฺโจ​ กุรุเต​  อิธ
   ตํ  หิ  ตสฺส​  สกํ   โหติ         ตญฺจ​  อาทาย​  คจฺฉติ
   ตญฺจสฺส​  อนุคํ    โหติ​         ฉายาว​  อนุปายินี
   ตสฺมา​  กเรยฺย​ กลฺยาณํ      นิจยํ​  สมฺปรายิกํ
   ปุญฺญานิ​  ปรโลกสฺมี​           ปติฏฺฐา  โหนฺติ​ ปาณินํ.

บุคคลผู้จะต้องตายเป็นธรรมดา​  กระทำบุญความดี
และบาปความชั่​ ทั้งสองอย่างไว้ในโลกนี้
บุญความดี​ บาปความชั่​ว​ นั้นย่อมตกเป็นของบุคคลนั้นไป​ ประดุจเงามตามตัว
  เพราะฉะนั้น​ บุคคลผู้ฉลาด​ เมื่อจะสะสมสิ่งที่จะติดตามตนไปยังสัมปรายภพได้​  ควรทำคุณงามความดีอันเป็นบุญกุศลเถิด
  เพราะว่า​ บุญความดีทั้งหลาย​ ย่อมเป็นที่พึ่งอาศัยของสรรพสัตว์ในสัมปรายภพคือโลกหน้า​ ฯ

บาปความชั่ว

ขโณ​ โว​ มา​  อุปจฺจคา.​ อย่าพลาดโอกาสที่จะทำความดี.
ทนฺธํ  หิ  กรโต​ ปุญฺญํ   เพราะเมื่อทำความดีชักช้า
ปาปสฺมึ   รมตี  มโน​      ใจมักจะ(แขว)​ไปยินดีในทางเสีย.

อสาธารณมญฺเญสํ         อโจรหรโณ​  นิธิ
กยิราถ​  ธีโร​  ปุญฺญานิ​   โย​  นิธิ​  อนุคามิโก.
  ขุมทรัพย์คือบุญอันใด​  ไม่ทั่วไปแก่คนเหล่าอื่น
โจรขโมย​ไม่ได้​                 ติดตามตนไปตลอดกาล
ผู้มีปรีชาชาญ​                   ควรฝังขุมทรัพย์นั้น​ เทอญ.

สิริ​ โภคานมาสโย​ สิริคือบุญ​ เป็นบ่อเกิดแห่งสมบัติหรือทรัพย์สินอันเป็นรูปธรรมนามธรรม.

ดังที่ประมวลพลังบุญญานุภาพไว้ในนิธิกัณฑสูตรว่า
1.สุวณฺณตา​  มีผิวพรรณงามผุดผ่องนวลเนียน
2.สุสรตา        มีเสียงไพเราะ
3.สุสณฺฐานา​  มีสรีระองคาพยพสมส่วนรูปร่างดี
4.สุรูปตา​        มีรูปงาม​ หล่อ​ สวย​ ชวนทัศนา
5.อาธิปจฺจํ     มีความเป็นผู้นำเหนือมหาชน
         ฯลฯ
20.พุทฺธภูมิ​    สำเร็จเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
  กล่าวโดยสรุปพลานุภาพแห่งบุญ​ อำนวยผลหรือความสำเร็จเป็น​ 3  ระดับด้วยกันคือ
  1.ผลระดับสามัญ​   หรือมนุษย์สมบัติ
  2.ผลระดับวิสามัญ​ หรือสวรรคสมบัติ
  3.ผลระดับปรมัตถ์​  หรือนิพพานสมบัติ.

วันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2563

ฝึกธรรม ทุกที่ ทุกเวลา

ปฏิบัติธรรม ทุกที่ ทุกเวลา

ปฏิบัติธรรม ไม่จำเป็นต้องไปนั่งสมาธิตามวัด หรือ สถานปฏิบัติธรรม แต่สามารถปฏิบัติได้ทุกที่ ทุกเวลา ทุกอริยาบถ สามารถปฏิบัติได้ในชีวิตประจำวัน


วันจันทร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2563

รีบแก้กรรมด่วน

รีบแก้กรรมด่วน

คนไทยมักจะบอกว่า ปล่อย ให้เค้าได้รับกรรม (ไม่ดี) ไปซึ่งเป็นความเข้าใจผิด ในขณะที่ขบวนการทางพระพุทธศาสนา มีวิธีป้องกัน ผู้กระทำความผิด (ศีลธรรม) มิให้มีอำนาจ หรือ เป็นผู้นำ ติดตามได้จาก


การเตรียมตัวก่อนปฏิบัติ กรรมฐาน เจริญสมาธิ ภาวนา

การเตรียมตัวก่อนปฏิบัติ กรรมฐาน เจริญสมาธิ ภาวนา

โดย ท่าน สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)

การเตรียมตัวก่อนเริ่มปฏิบัติพระธรรม กรรมฐาน หรือ การเตรียมตัวก่อนเริ่มเจริญสติ สมาธิ ภาวนา มักไม่ได้มีการกล่าวถึงบ่อยนัก วันนี้ทางเพจ มี เคล็ดลับ เล็กๆ น้อยๆ นำมาฝาก


สรุปหลักที่ต้องรู้ก่อน ๓ อย่าง

  1. ปริยัตติ (ความรู้ด้านทฤษฎี ตามหลักที่ต้องอ้างอิงถึงพุทธพจน์ในพระไตรปิฎก)
  2. สิ่งที่ต้องกระทำก่อนเข้าปฏิบัติ (ปุพฺพกิจฺจ ภาวนา)
  3. พิธีกรรมในตอนที่จะเริ่มลงมือปฏิบัติ (วิธี สมาทาน กรรมฎฺฐาน)

ปุพฺพกิจฺจ ภาวนา

  • ตัด ปริโภชฺช (สิ่งที่ผูกพันธ์ หน่วงเหนี่ยวให้ใจห่วงกังวล หรือ สิ่งที่ใจติดข้อง)
  • เข้าหา กลฺยาณมิตฺต (เพื่อนที่คอยแนะนำการปฏิบัติให้สอดคล้องกับพุทธพจน์ เช่น ครู อาจารย์)
  • เลือกสถานที่ที่เหมาะแก่การภาวนา (สปฺปาย)

ปริโภชฺช ๑๐ อย่าง (วิสุทธิมรรค)

  • อาวาส ข้าวของเครื่องใช้ในอาวาส (บ้าน)
  • กุล หรือ ตระกูล (ครอบครัว ผู้อุปถัมป์ เกื้อกูล)
  • ลาภ รายได้ หรือ ผลประโยชน์
  • คณะ (หมู่คณะ)
  • กมฺม (การงาน)
  • การเดินทางไกล
  • ญาติ พี่น้อง อาจารย์ ลูกศิษย์
  • ความเจ็บป่วยของตนเอง
  • การศึกษาเล่าเรียน
  • อิทฺธิ (ฤทธิ์) เช่นความสำเร็จต่างๆ เกียรติยศชื่อเสียง

ลักษณะของ กลฺยาณมิตฺต ๗ ประการ (กัลยาณมิตร)

  • ปิโย เป็นที่รัก
  • ครุ เป็นครู ที่เคารพ
  • ภาวนีโย ถูกทำให้เจริญ
  • วตฺตา พูดเป็น อธิบายชี้แจงข้อสงสัยได้ ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย
  • วจน ขโม เป็นผู้อดทนต่อถ้อยคำ (สามารถซักถามได้)
  • พูดจาแถลงคำพูดที่ลึกซึ้งได้
  • ไม่ชักจูงไปในทางที่เสียหายไม่เป็นประโยชน์

ความถูกจริต ๖ ประการ

  • ราคจริตฺ ราคะจริต รักสวยรักงาม
  • โทส จริตฺ โทสะจริต หงุดหงิดขัดใจง่าย
  • โมห จริต หลง งมงาย เขลา
  • ศรัทธาจริต เห็นอะไรก็ซาบซึ้งง่าย
  • พุทธิ จริต เชื่อด้วยปัญญา
  • วิตก จริต คิดอะไรจับจดฟุ้งซ่าน

กรรมฐาน

  • สมถะ ต้องเลือกให้ถูกกับจริต เพื่อให้เกิดสมาธิ
  • วิปัสนา ไม่ต้องห่วงจริตมาก
  • อานาปานสติ ถือว่า สากล

สปฺปาย ๗ ประการ

  • สถานที่ปฏิบัติ ที่เกื้อกูลต่อการปฏิบัติ
  • โคจร (แหล่งอาหาร)
  • การพูดคุย เกื้อกูลแก่การเจริญสมาธิ
  • บุคคล ที่เราสบายใจ
  • โภชนะ อาหาร
  • อุตุ (ดิน ฟ้า อากาศ)
  • อิริยาบถ (เกื้อกูล อิริยาบททั้งสี่)

วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

ทำงานเพราะอะไร ในแบบพุทธ

ทำงานเพราะอะไร ในแบบพุทธ (พุทธเศรษฐศาสตร์)

ในขณะที่มนุษย์ ถูกบีบคั้นด้วยระบบทุนนิยม จนทำให้บุคคลในสังคมเกิดความเครียดจนลุกลามเป็นความขัดแย้งในระดับมหภาค(โลก) ดังนั้น เราจะใช้แง่มุมใดในพระพุทธศาสนา เพื่อพิจารณา สามารถติดตามได้จาก วีดีโอ ด้านล่างนี้
หมายเหตุ กรณีที่วีดีโอ อาจไม่สามารถแสดงได้ในเพจ ผู้ติดตามสามารถตาม Link ด้านล่างเข้าไปดูได้

ตอนที่๑


ตอนที่ ๒


วันพุธที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2562

วันพุธที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2562

วิธีการตรวจสอบ สังคมพุทธของเรา ว่าเป็นไปตามพุทธประสงค์หรือไม่

5 บทสรุป วิธีการตรวจสอบ สังคมพุทธของเรา ว่าเป็นไปตามพุทธประสงค์หรือไม่

พุทธประสงค์ ตรงกันข้าม
อิสระ ไม่อิสระ
ไม่มีชนชั้น แบ่งแยกชนชั้น
คุณธรรม อาวุโส
สงบ วุ่นวาย
ประชาธิปไตย อำนาจเผด็จการ