บุญบาป จะติดตัวเราไปยังปรโลก โลกเบื้องหน้า
โดย ท่านเจ้าคุณพระปริยัติธรรมธาดา (ทองคำ เถรานนฺโท)
บุญคือความดี บาปคือความชั่ว เพียง 2 ประการนี้เท่านั้น จะติดตัวเราไปยังปรโลก โลกเบื้องหน้า ซึ่งมีพระบาลีพุทธพจน์ตรัสรับรองไว้ในพระสุตตันตปิฎก สคาถวรรค สังยุตตนิกายว่า
อุโภ ปุญฺญฺญฺจ ปาปญฺจ ยํ มจฺโจ กุรุเต อิธ
ตํ หิ ตสฺส สกํ โหติ ตญฺจ อาทาย คจฺฉติ
ตญฺจสฺส อนุคํ โหติ ฉายาว อนุปายินี
ตสฺมา กเรยฺย กลฺยาณํ นิจยํ สมฺปรายิกํ
ปุญฺญานิ ปรโลกสฺมี ปติฏฺฐา โหนฺติ ปาณินํ.
บุคคลผู้จะต้องตายเป็นธรรมดา กระทำบุญความดี
และบาปความชั่ ทั้งสองอย่างไว้ในโลกนี้
บุญความดี บาปความชั่ว นั้นย่อมตกเป็นของบุคคลนั้นไป ประดุจเงามตามตัว
เพราะฉะนั้น บุคคลผู้ฉลาด เมื่อจะสะสมสิ่งที่จะติดตามตนไปยังสัมปรายภพได้ ควรทำคุณงามความดีอันเป็นบุญกุศลเถิด
เพราะว่า บุญความดีทั้งหลาย ย่อมเป็นที่พึ่งอาศัยของสรรพสัตว์ในสัมปรายภพคือโลกหน้า ฯ
บาปความชั่ว
ขโณ โว มา อุปจฺจคา. อย่าพลาดโอกาสที่จะทำความดี.
ทนฺธํ หิ กรโต ปุญฺญํ เพราะเมื่อทำความดีชักช้า
ปาปสฺมึ รมตี มโน ใจมักจะ(แขว)ไปยินดีในทางเสีย.
อสาธารณมญฺเญสํ อโจรหรโณ นิธิ
กยิราถ ธีโร ปุญฺญานิ โย นิธิ อนุคามิโก.
ขุมทรัพย์คือบุญอันใด ไม่ทั่วไปแก่คนเหล่าอื่น
โจรขโมยไม่ได้ ติดตามตนไปตลอดกาล
ผู้มีปรีชาชาญ ควรฝังขุมทรัพย์นั้น เทอญ.
สิริ โภคานมาสโย สิริคือบุญ เป็นบ่อเกิดแห่งสมบัติหรือทรัพย์สินอันเป็นรูปธรรมนามธรรม.
ดังที่ประมวลพลังบุญญานุภาพไว้ในนิธิกัณฑสูตรว่า
1.สุวณฺณตา มีผิวพรรณงามผุดผ่องนวลเนียน
2.สุสรตา มีเสียงไพเราะ
3.สุสณฺฐานา มีสรีระองคาพยพสมส่วนรูปร่างดี
4.สุรูปตา มีรูปงาม หล่อ สวย ชวนทัศนา
5.อาธิปจฺจํ มีความเป็นผู้นำเหนือมหาชน
ฯลฯ
20.พุทฺธภูมิ สำเร็จเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
กล่าวโดยสรุปพลานุภาพแห่งบุญ อำนวยผลหรือความสำเร็จเป็น 3 ระดับด้วยกันคือ
1.ผลระดับสามัญ หรือมนุษย์สมบัติ
2.ผลระดับวิสามัญ หรือสวรรคสมบัติ
3.ผลระดับปรมัตถ์ หรือนิพพานสมบัติ.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ