วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

เรียน ภาษาบาลี วันละประโยค จากหนังสือ วิปัสสนาชุนี อารัมภบท ประโยคที่ ๓-๔

 ประโยคที่ - อารัมภบท

วิปสฺสนานยํ กสฺสํ สีฆํ มคฺคาทิปาปกํ

ทิฏฺเฐ ธมฺเมว สาธูนํ ยถาวุตฺตํ วิปสฺสตนฺติ.

ที่มาของคำศัพท์ตามไวยยากรณ์

วิปสฺสนานยํ => วิปสฺสนา+นย

วิปสฺสนา

๑ น.,อิต. วิปัสสนา อิต. แจกเหมือน กญฺญา เช่น ฉ.เอก. วิปสฺสนาย แห่งวิปัสสนา แต่ใน ธรรมบทภาค ๑ เรื่องโกสัมพี หน้า ๕๘ เป็นนปุ. วิปสฺสนํ อ. วิปัสสนา

๒ นาม อิตถี กลุ่ม กญฺญา ศัพท์เดิม วิปสฺสนา วิปัสสนา

ปฐมา เอก. อันว่าวิปัสสนา ประธาน

สุทธกัตตา สยกตฺตา อภิหิตกตฺตา ปกติกตฺตา สปฺปธาน

ปฐมา พหุ. อันว่าวิปัสสนา ทั้งหลาย ประธาน

สุทธกัตตา สยกตฺตา อภิหิตกตฺตา ปกติกตฺตา สปฺปธาน

อาลปนะ พหุ. แน่ะ, ดูก่อน, ข้าแต่, โอ วิปัสสนา ทั้งหลาย คำการร้องเรียก

อาลปนะ

ทุติยา พหุ. ซึ่ง, สู่, ยัง, สิ้น, ตลอด, กะ, เฉพาะ วิปัสสนา ทั้งหลาย กรรมในประโยค

อวุตตกัมมะ สัมปาปุณียกัมมะ การิตกัมมะ อัจจันตสังโยคะ อัจจันตสังโยคะ อกถิตกมฺม

นย

(ขอจง )นำไป (จง )นำไป (ขอโปรดจง )นำไป

ความปรารถนา การสั่งบังคับให้กระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง การนิมนต์

กาลอันถูกกล่าวใกล้ ๆ

นีธาตุ + อปจจัย + ปญจมีวิภัตติ ปรัสบทอย่างเดียว เน

ปรัสบท เอก มัชฌิม

๒ การนำไป, นัย

(นิปุพฺพ + สิ เสวายํ ในการเสพ + ) (กัมมสาธนะ)

๓ นาม ปุง. กลุ่ม ปุริส ศัพท์เดิม นย นัย

อาลปนะ เอก. แน่ะ, ดูก่อน, ข้าแต่, โอ นัย คำการร้องเรียก

อาลปนะ

นยํ

นาม ปุง. กลุ่ม ปุริส ศัพท์เดิม นย นัย

ทุติยา เอก. ซึ่ง, สู่, ยัง, สิ้น, ตลอด, กะ, เฉพาะ นัย กรรมในประโยค

อวุตตกัมมะ สัมปาปุณียกัมมะ การิตกัมมะ อัจจันตสังโยคะ อัจจันตสังโยคะ อกถิตกมฺม


กสฺส

๑ น.,ปุ. แก่ใคร, ของใคร ศัพท์เดิมเป็น กึ แปลง กึ เป็น ก อ การันต์ในปุงลิงค์ ลง ส จตุตถีวิภัตติ และฉัฏฐีวิภัตติ ฝ่ายเอกวจนะ แปลง ส เป็น สฺส สำเร็จรูปเป็น กสฺส

๒ น.ปุง. ใคร, อะไร, ไหน

กึสทฺทปทมาลา จตุต ฉัต เอก

๓ นาม ปุง. กลุ่ม ปุริส ศัพท์เดิม กสฺส แก่ใคร

อาลปนะ เอก. แน่ะ, ดูก่อน, ข้าแต่, โอ แก่ใคร คำการร้องเรียก

อาลปนะ

กสฺสํ

นาม ปุง. กลุ่ม ปุริส ศัพท์เดิม กสฺส แก่ใคร

ทุติยา เอก. ซึ่ง, สู่, ยัง, สิ้น, ตลอด, กะ, เฉพาะ แก่ใคร กรรมในประโยค

อวุตตกัมมะ สัมปาปุณียกัมมะ การิตกัมมะ อัจจันตสังโยคะ อัจจันตสังโยคะ อกถิตกมฺม


สีฆ

. . พลัน, เร็ว ปุ. แจกเหมือน ปุริส เช่น ต.เอก. สีเฆน (ชเวน) ด้วยฝีเท้า อันเร็ว

. (วิ.) คล่อง, พลัน, ฉับพลัน, เร็ว, ไว, ฉับไว, ว่องไว, ด่วน, เชี่ยว. วิ. เสติ ลหุํ หุตฺวา ปวตฺตตีติ สีฆํ. สิ คติยํ, โฆ, ทีโฆ. .

๓ นาม ปุง. กลุ่ม ปุริส ศัพท์เดิม สีฆ ว. เร็ว พลัน

อาลปนะ เอก. แน่ะ, ดูก่อน, ข้าแต่, โอ ว. เร็ว พลัน คำการร้องเรียก

อาลปนะ

สีฆํ

นาม ปุง. กลุ่ม ปุริส ศัพท์เดิม สีฆ ว. เร็ว พลัน

ทุติยา เอก. ซึ่ง, สู่, ยัง, สิ้น, ตลอด, กะ, เฉพาะ ว. เร็ว พลัน กรรมในประโยค

อวุตตกัมมะ สัมปาปุณียกัมมะ การิตกัมมะ อัจจันตสังโยคะ อัจจันตสังโยคะ อกถิตกมฺม


มคฺคาทิปาปกํ

อันสามารถยังให้ถึงมรรคผลนิพพาน


ทิฏฺฐ

๑ ก. อัน…เห็นแล้ว ทิส ธาตุ ในความเห็น + ต ปัจจัย แปลง ต เป็น ฏฺ ลบ ส ที่สุดธาตุ ได้รูป เป็น ทิฏฺ

๒ นาม ปุง. กลุ่ม ปุริส ศัพท์เดิม ทิฏฺฐ ก. อัน_เห็นแล้ว

อาลปนะ เอก. แน่ะ, ดูก่อน, ข้าแต่, โอ ก. อัน_เห็นแล้ว คำการร้องเรียก

อาลปนะ

(ปุ.) ความยินดี, ความพอใจล ความแช่มชื่น. ตุสฺ ตุฎฺยํ, โต. แปลง ต เป็น ฎฺ ลบ สฺ แปลง อุ เป็น อิ แปลง ตฺ เป็น ทฺ.

ทิฏฺเฐ

๑ นาม ปุง. กลุ่ม ปุริส ศัพท์เดิม ทิฏฺฐ ก. อัน_เห็นแล้ว

ทุติยา พหุ. ซึ่ง, สู่, ยัง, สิ้น, ตลอด, กะ, เฉพาะ ก. อัน_เห็นแล้ว ทั้งหลาย กรรมในประโยค

อวุตตกัมมะ สัมปาปุณียกัมมะ การิตกัมมะ อัจจันตสังโยคะ อัจจันตสังโยคะ อกถิตกมฺม

สัตตมี เอก. ใน, ใกล้, ที่, ครั้นเมื่อ, ในเพราะ, เหนือ, บน ก. อัน_เห็นแล้ว สถานที่ทำ

พยาปิกาธาระ สมีปาธาระ อาธาระ ลักขณะ เหตวัตถะ อุปสิเลสิกาธาระ อุปสิเลสิกาธาระ

๒ นาม อิตถี กลุ่ม กญฺญา ศัพท์เดิม ทิฏฺฐา ก. อัน_เห็นแล้ว

อาลปนะ เอก. แน่ะ, ดูก่อน, ข้าแต่, โอ ก. อัน_เห็นแล้ว คำการร้องเรียก

อาลปนะ


ธมฺเมว

ธรรมมะ_นั่นเทียว

ธมฺเม+เอว


สาธูนํ

แก่สาธุชน


ยถาวุตฺตํ

ซึ่งประการทั้งปวงที่ได้กล่าวแล้ว

ยถา+วุตฺต


วิปสฺสตนฺติ

วิปสฺสตํ+อิติ ว่า..ผู้เพ่ง..ดังนี้

หลักสนธิ ๔ ข้อ เรื่อง อิติ ศัพท์

. นิคหิต + อิติ ถ้าบทหน้า ท้ายศัพท์เป็นนิคหิต ให้ลบสระ อิ ข้างหลัง แล้วแปลงนิคหิต เป็นวัคคันตะ นฺ

วิปสฺสตนฺติ


แปลยกศัพท์ โดย ท่านอาจารย์ จำรูญ ตามหนังสือ

กสฺสํ จัก รจนา วิปสฺสนานยํ ซึ่งคัมภีร์อันมีนามว่า วิปัสสนาชุนี (วิปัสสนานัย หลักการวิปัสสนา) มคฺคาทิปาปกํ อันสามารถยังให้ถึงมรรคผลนิพพาน สีฆํ ได้อย่างรวดเร็ว ทิฏฺเฐ ธมฺ+เอว ในอัตภาพปัจจุบันนี้นั่นเทียว สาธูนํ แก่สาธุชน วิปสฺสตผู้เพ่งเพียร ยถาวุตฺตํ ตามนัยที่จะกล่าวในคัมภีร์นี้


ในประโยคเดียวกันได้มี พระอาจารย์ พระคันธสาราภิวงศ์ ในขณะที่ท่านได้ จำพรรษาอยู่ที่ วัดท่ามะโอ จ.ลำปาง ในหนังสือ วิปัสสนานัย เล่มที่ ๑ ได้แปลไว้ได้อย่างงดงามเช่นกัน (ไม่ได้แปลยกศัพท์ไว้) ว่า ดังนี้

อโห พุทฺโธ อโห ธมฺโม อโห สํโฆ อนุตฺตโร

อิติ จิตฺตํ ปหํเสตฺวา วิปสฺสิตฺวา ตทา คเต.

วิปสฺสนานยํ กสฺสํ สีฆํ มคฺคาทิปาปกํ

ทิฏฺเฐ ธมฺเมว สาธูนํ ยถาวุตฺตํ วิปสฺสตนฺติ.


พระพุทธเจ้า เป็นพระบรมศาสดา ผู้สูงสุดน่าอัศจรรย์

พระธรรม เป็นคำสอนสูงสุด น่าอัศจรรย์

พระสงฆ์ พระอริยบุคคล ผู้สูงสุดน่าอัศจรรย์

ข้าพเจ้ากำหนดรู้จิต ที่เบิกบาน และ รูป ที่เกิดร่วมกับจิตในกาลนั้นแล้ว จักแต่ง คัมภีร์วิปัสสนานัย

ซึ่งยังสัตบุรุษ ผู้กำหนดรู้ตามนัย ที่กล่าวไว้ให้ บรรลุมรรคผล และ นิพพาน ในปัจจุบันชาติ โดยพลัน


จากตรงนี้ จึงจะเห็นได้ว่า เนื่องจากข้าพเจ้าเป็นผู้ใหม่ในพระบาลี จึงได้นำหนังสือ วิปัสสนาชุนี ที่มีการแปลยกศัพท์ ประกอบกับ ตำราบาลีไวยากรณ์ จากวัดท่ามะโอ ต.วังเหนือ อ.เมือง จังหวัดลำปาง เทคนิคทำตัวรูปด้วยคอมพิวเตอร์ และ โปรแกรม ThaiNewGendictมาเป็นเอกสารอ้างอิง ในการเรียนรู้ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุด



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ